วันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2555

100 อันดับโรงเรียนที่ดีที่สุดในประเทศไทย


มีการจัดอันดับ 100 อันดับโรงเรียนที่ดีที่สุดในประเทศไทย จากกผลเอนทรานซ์ โควตารับตรงและโอลิมปิกวิชาการ มีโรงเรียนไหนบ้าง จะเป็นโรงเรียนน้องๆหรือเปล่าไปดูกันเลยครับ
1. โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
2. โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย
3. โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์
4. โรงเรียนบดินทรเดชา(สิงห์ สิงหเสนีย์)
5. โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย
6. โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย จ.ลำปาง
7. โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย จ.สงขลา
8. โรงเรียนสาธิต มศว. ปทุมวัน
9. โรงเรียนอัสสัมชัญ
10. โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จ.เชียงใหม่
11.โรงเรียนเซนต์คาเบรียล
12.โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล จ.อุดรธานี
13.โรงเรียนสตรีวิทยา
14.โรงเรียนเทพศิรินทร์
15.โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช จ.อุบลราชธานี
16.โรงเรียนสาธิต ม.เชียงใหม่
17.โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย จ.เชียงใหม่
18.โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จ.นครศรีธรรมราช
19.โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม จ.เชียงราย
20.โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
21.โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จ.เชียงใหม่
22.โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ
23.โรงเรียนนครสวรรค์
24.โรงเรียนหอวัง
25.โรงเรียนวัดสุทธิวราราม
26.โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
27.โรงเรียนสุราษฎร์ธานี
28.โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน จ.ขอนแก่น
29.โรงเรียนสตรีวิทยา2
30.โรงเรียนพิริยาลัย จ.แพร่
31.โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย
32.โรงเรียนสาธิต ม.ขอนแก่น
33.โรงเรียนพรหมานุสรณ์ จ.เพชรบุรี
34.โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย
35.โรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย จ.ตรัง
36.โรงเรียนสาธิต ม.สงขลานครินทร์ จ.ปัตตานี
37.โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว
38.โรงเรียนโยธินบูรณะ
39.โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จ.ราชบุรี
40.โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย
41.โรงเรียนจักรคำคณาทร จ.ลำพูน
42.โรงเรียนนารีรัตน์ จ.แพร่
43.โรงเรียนสุราษฎร์พิทยา
44.โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย จ.นนทบุรี
45.โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย
46.โรงเรียนสุรนารีวิทยา จ.นครราชสีมา
47.โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จ.ยะลา
48.โรงเรียนศึกษานารี
49.โรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี จ.พิษณุโลก
50.โรงเรียนสาธิต มศว.ประสานมิตร
51.โรงเรียนสตรีศรีน่าน จ.น่าน
52.โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย
53.โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย จ.ลพบุรี
54.โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนด์
55.โรงเรียนมหาวชิราวุธ จ.สงขลา
56.โรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคม
57.โรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการ
58.โรงเรียนสิรินธร จ.สุรินทร์
59.โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย จ.สตูล
60.โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์
61.โรงเรียนสกลราชวิทยานุกูล
62.โรงเรียนบดินทรเดชา(สิงห์ สิงหเสนีย์)2
63.โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย
64.โรงเรียนชลราษฎรอำรุง
65.โรงเรียนดาราวิทยาลัย จ.เชียงใหม่
66.โรงเรียนพัทลุง
67.โรงเรียนพิษณุโลกวิทยาคม
68.โรงเรียนลำปางกัลยาณี
69.โรงเรียนศรีสะเกษวิทยาลัย
70.โรงเรียนนวมินทราชูทิศ บดินทรเดชา
71.โรงเรียนสุรวิทยาคาร จ.สุรินทร์
72.โรงเรียนเซนต์โยเชฟคอนแวนด์
73.โรงเรียนบูรณะรำลึก จ.ตรัง
74.โรงเรียนสระบุรีวิทยาคม
75.โรงเรียนสารคามวิทยาคม จ.มหาสารคาม
76.โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี
77.โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า
78.โรงเรียนระยองวิทยาคม
79.โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จ.จันทรบุรี
80.โรงเรียนกำแพงเพชรพิทยาคม
81.โรงเรียนทวีธาภิเศก
82.โรงเรียนชลกันยานุกูล
83.โรงเรียนสาธิต ม.ราชภัฎนครปฐม
84.โรงเรียนมารีย์วิทยา จ.นครราชสีมา
85.โรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย
86.โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย จ.มุกดาหาร
87.โรงเรียนสตรีวัดมหาพฤฒาราม
88.โรงเรียนสายน้ำผึ้ง
89.โรงเรียนเบญจมราชาลัย
90.โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช
91.โรงเรียนสาธิต ม.ราชภัฎพระนครศรีอยุธยา
92.โรงเรียนเบญจมเทพอุทิศ จ.เพชรบุรี
93.โรงเรียนศรียาภัย จ.ชุมพร
94.โรงเรียนนวมินทราชูทิศ หอวัง นนทบุรี
95.โรงเรียนสตรีราชินูทิศ จ.อุดรธานี
96.โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี
97.โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาภาคใต้ จ.นครศรีธรรมราช
98.โรงเรียนสาธิต(พิบูลย์บำเพ็ญ) ม.บูรพา
99.โรงเรียนวิสุทธังษี จ.กาญจนบุรี
100.โรงเรียนนวมินทราชูทิศ เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า
ที่มา chillgang.com

อ่านหนังสือไม่เข้าหัวซักที ทำยังไงดีนะ


เวลาสอบก็ใกล้เข้ามาแล้ว แต่ยังมีหนังสืออีกเป็นตั้งใหญ่ๆที่ยังไม่ได้อ่าน วันนี้พี่เกตต์มีวิธีอ่านหนังสือในแบบฉบับของพี่เองมาแนะนำน้องๆที่ประสบปัญหานี้นะครับ

1. เขียนตารางการอ่านหนังสือ

ลองหยิบกระดาษ A4 มาสัก 1 แผ่น แล้ววางแผนว่า พรุ่งนี้จะอ่านหนังสืออะไรบ้าง กี่บท กี่เรื่อง ใช้เวลาประมาณกี่ชั่วโมง แล้วเขียนเป็นตารางอ่านหนังสือแบบคร่าวๆ นอกจากจะเป็นการฝึกการบริหารเวลาแล้ว ยังฝึกความมีวินัยในตัวเองอีกด้วย หมายความว่า ในช่วงเวลาที่เราวางแผนว่าจะอ่านหนังสือนั้น เราจะต้องห้ามตัวเองไม่ให้ทำอย่างอื่นให้ได้
2. ก่อนจะถึงเวลาอ่าน ให้ทำสิ่งที่อยากทำให้เสร็จ
สมมุติว่าเวลาเริ่มอ่านคือ 9 โมงเช้า ให้ทำทุกอย่างให้เสร็จสิ้นก่อนถึงเวลานั้นเช่น ซักผ้า อาบน้ำ เล่นเกม ซื้อหวย อัพสเตตัส ฟังเพลง ฯลฯ เพราะเมื่อถึงเวลาอ่านหนังสือแล้ว กิจกรรมเหล่านี้จะต้องงดไปโดยเด็ดขาด
3. หาอะไรใส่ท้องก่อนอ่านหนังสือ
มีคนเคยบอกว่า “กองทัพต้องเดินด้วยท้อง” สมองก็ต้องเดินด้วยของกินด้วยเช่นกัน ก่อนจะเริ่มอ่านหนังสือ ให้หาอะไรกินแบบพออิ่มสบายๆ แต่อย่าให้อิ่มจนเกินไป เพราะ “หนังท้องตึง หนังตาก็มักจะหย่อน” เดี๋ยวจะง่วงนอนเอาง่ายๆ ส่วนใครจะโด๊ปโอวัลติน กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่โฆษณาว่าบำรุงสมองก็จัดได้ตามสะดวกครับ แต่อย่าดื่มกาแฟเยอะเกินไป เดี๋ยวใจสั่นอ่านไม่รู้เรื่องนะครับ
4. หามุมเงียบๆ ที่นั่งได้นานๆ
เมื่อถึงเวลาอ่าน ให้หยิบหนังสือที่จะอ่านไปอ่านในที่ๆเงียบๆ สงบๆ ไม่มีคนเดินผ่านไปผ่านมา ไม่มีเสียงทีวี ไม่มีเสียงท่อมอเตอร์ไซด์ของเด็กแว๊น หรือเสียงรบกวนอื่นๆ หรือถ้าที่บ้านมีคนเยอะแยะมากมายก็ให้บอกกับสมาชิกในบ้านว่า “จะใช้สมาธิอ่านหนังสืออย่ารบกวน” และที่สำคัญอีกอย่างคือ อย่านอนอ่าน เพราะจะอ่านได้ไม่นาน (หลับ)
5. ปิดโทรศัพท์ เฟสบุค และแชททุกชนิดในช่วงอ่านหนังสือ
ข้อนี้สำคัญเลย ทุกอย่างที่ทำมาสามารถพังได้ถ้าละเลยข้อนี้ สมาธิในการอ่านหนังสือจะลดลงอย่างรวดเร็ว เมื่อถูกขัดด้วยเสียงโทรศัพท์ เสียงเฟสแชท เสียงไลน์ ถ้าไม่อยากปิดก็โพสสเตตัสบอกเพื่อนไปว่าจะอ่านหนังสือ ถ้าไม่มีอะไรสำคัญไม่ต้องทักแชทหรือโทรมา แต่เชื่อพี่เหอะ ปิดไปเลยชัวร์ที่สุด
6. หาปากกา ดินสอ ปากกาไฮไลท์ กระดาษเปล่าและโพสต์อิทไว้
ในการอ่านหนังสือ อาจจะต้องมีการจด โน๊ต ไฮไลท์ ขีดเส้นใต้ หรือคั่นหน้าที่สำคัญไว้ ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกขัดจังหวะจากการหาโน่นหานี่ ให้เตรียมๆเครื่องเขียนเหล้านี้ไว้ใกล้ๆมือ เพื่อให้การอ่าน ราบรื่นและเนียนนุ่มเหมือนก้นเด็ก… = =”
7. เตรียมน้ำเย็นๆไว้สักขวด ไว้กินตอนอ่านหนังสือ
การจิบน้ำระหว่างอ่านหนังสือเป็นวิธีที่ทำให้ร่างการรู้สึกสดชื่นอยู่เสมอ ถึงเราจะไม่ได้เสียน้ำก็เถอะ แต่เมื่อเราอ่านนานๆ จะทำให้สมองล้า แสบตา การกินน้ำก็จะช่วยทำให้ร่างกายสดชื่นและลดอาการเหล้านี้ได้ แต่อย่ากินเยอะเกินไป เพราะจะปวดฉี่บ่อย
8. เมื่ออ่านครบ 1 ชั่วโมง ควรจะพักสายตาสัก 5-10 นาที
พยายามหยุดพักการอ่านบ้างเป็นระยะๆ เพื่อให้มีเวลาพักผ่อนสมองกับสายตาบ้าง อาจจะฟังเพลงชิวๆสัก 2-3 เพลง ลุกเดินไปเดินมา แต่อย่าเพิ่งไปเปิดเฟส หรือแชทเด็ดขาด เพราะถ้าเล่นแล้ว เวลาพัก 10 นาทีอาจกลายเป็น 2 ชั่วโมงก็ได้
9. มีสมาธิในการอ่าน ไม่วอกแวก พยายามอย่าคิดเรื่องอื่นๆขณะอ่าน
ข้อนี้สำคัญ เพราะการอ่านรู้เรื่องหรืออ่านไม่รู้เรื่องขึ้นอยู่กับสมาธิในการอ่าน ให้จดจ่ออยู่กับสิ่งที่กำลังอ่าน คิดตาม จดตาม หรือขีดเส้นใต้ วงกลม ขีดโยงหัวข้อเข้าหากัน พยายามอย่าคิดเรื่องอื่นๆที่นอกเหนือจากเรื่องที่กำลังอ่าน
10. เมื่ออ่านเสร็จตามเป้าหมาย ลองให้รางวัลตัวเองดูบ้าง
เป็นเหมือนการให้รางวัลที่ตัวเราตั้งใจอ่านหนังสือจนสำเร็จตามแผน ตามเวลา หรือจบทุกเรื่องที่เราวางแผนไปแล้ว ก็ทำอะไรที่อยากทำเลยครับ จะฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกม แชทเฟสบุคให้สบายใจ
11. ถ้าเป็นไปได้ ให้อ่านซ้ำอีกหลายๆครั้ง
อันนี้แล้วแต่นะครับ บางคนอ่านครั้งเดียวเข้าใจ แต่สำหรับพี่และน่าจะอีกหลายๆคน การอ่านซ้ำจะทำให้การจดจำดีขึ้นและแม่นยำขึ้นอีกเยอะ
เป็นอย่างไรบ้างครับกับ 11 ข้อวิธีการอ่านหนังสือให้เข้าหัวของพี่ สามารถเอาไปลองทำกันได้นะครับ ถ้าทำได้ดีหรือมีคำแนะนำดีๆเพิ่มเติมมาแบ่งปันก็ยินดีมากเลยนะครับ
สู้ๆครับน้องๆ
พี่เกตต์
ที่มา chillgang.com