วันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2555

100 อันดับโรงเรียนที่ดีที่สุดในประเทศไทย


มีการจัดอันดับ 100 อันดับโรงเรียนที่ดีที่สุดในประเทศไทย จากกผลเอนทรานซ์ โควตารับตรงและโอลิมปิกวิชาการ มีโรงเรียนไหนบ้าง จะเป็นโรงเรียนน้องๆหรือเปล่าไปดูกันเลยครับ
1. โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
2. โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย
3. โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์
4. โรงเรียนบดินทรเดชา(สิงห์ สิงหเสนีย์)
5. โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย
6. โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย จ.ลำปาง
7. โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย จ.สงขลา
8. โรงเรียนสาธิต มศว. ปทุมวัน
9. โรงเรียนอัสสัมชัญ
10. โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จ.เชียงใหม่
11.โรงเรียนเซนต์คาเบรียล
12.โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล จ.อุดรธานี
13.โรงเรียนสตรีวิทยา
14.โรงเรียนเทพศิรินทร์
15.โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช จ.อุบลราชธานี
16.โรงเรียนสาธิต ม.เชียงใหม่
17.โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย จ.เชียงใหม่
18.โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จ.นครศรีธรรมราช
19.โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม จ.เชียงราย
20.โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
21.โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จ.เชียงใหม่
22.โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ
23.โรงเรียนนครสวรรค์
24.โรงเรียนหอวัง
25.โรงเรียนวัดสุทธิวราราม
26.โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
27.โรงเรียนสุราษฎร์ธานี
28.โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน จ.ขอนแก่น
29.โรงเรียนสตรีวิทยา2
30.โรงเรียนพิริยาลัย จ.แพร่
31.โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย
32.โรงเรียนสาธิต ม.ขอนแก่น
33.โรงเรียนพรหมานุสรณ์ จ.เพชรบุรี
34.โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย
35.โรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย จ.ตรัง
36.โรงเรียนสาธิต ม.สงขลานครินทร์ จ.ปัตตานี
37.โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว
38.โรงเรียนโยธินบูรณะ
39.โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จ.ราชบุรี
40.โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย
41.โรงเรียนจักรคำคณาทร จ.ลำพูน
42.โรงเรียนนารีรัตน์ จ.แพร่
43.โรงเรียนสุราษฎร์พิทยา
44.โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย จ.นนทบุรี
45.โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย
46.โรงเรียนสุรนารีวิทยา จ.นครราชสีมา
47.โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จ.ยะลา
48.โรงเรียนศึกษานารี
49.โรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี จ.พิษณุโลก
50.โรงเรียนสาธิต มศว.ประสานมิตร
51.โรงเรียนสตรีศรีน่าน จ.น่าน
52.โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย
53.โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย จ.ลพบุรี
54.โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนด์
55.โรงเรียนมหาวชิราวุธ จ.สงขลา
56.โรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคม
57.โรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการ
58.โรงเรียนสิรินธร จ.สุรินทร์
59.โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย จ.สตูล
60.โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์
61.โรงเรียนสกลราชวิทยานุกูล
62.โรงเรียนบดินทรเดชา(สิงห์ สิงหเสนีย์)2
63.โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย
64.โรงเรียนชลราษฎรอำรุง
65.โรงเรียนดาราวิทยาลัย จ.เชียงใหม่
66.โรงเรียนพัทลุง
67.โรงเรียนพิษณุโลกวิทยาคม
68.โรงเรียนลำปางกัลยาณี
69.โรงเรียนศรีสะเกษวิทยาลัย
70.โรงเรียนนวมินทราชูทิศ บดินทรเดชา
71.โรงเรียนสุรวิทยาคาร จ.สุรินทร์
72.โรงเรียนเซนต์โยเชฟคอนแวนด์
73.โรงเรียนบูรณะรำลึก จ.ตรัง
74.โรงเรียนสระบุรีวิทยาคม
75.โรงเรียนสารคามวิทยาคม จ.มหาสารคาม
76.โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี
77.โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า
78.โรงเรียนระยองวิทยาคม
79.โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จ.จันทรบุรี
80.โรงเรียนกำแพงเพชรพิทยาคม
81.โรงเรียนทวีธาภิเศก
82.โรงเรียนชลกันยานุกูล
83.โรงเรียนสาธิต ม.ราชภัฎนครปฐม
84.โรงเรียนมารีย์วิทยา จ.นครราชสีมา
85.โรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย
86.โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย จ.มุกดาหาร
87.โรงเรียนสตรีวัดมหาพฤฒาราม
88.โรงเรียนสายน้ำผึ้ง
89.โรงเรียนเบญจมราชาลัย
90.โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช
91.โรงเรียนสาธิต ม.ราชภัฎพระนครศรีอยุธยา
92.โรงเรียนเบญจมเทพอุทิศ จ.เพชรบุรี
93.โรงเรียนศรียาภัย จ.ชุมพร
94.โรงเรียนนวมินทราชูทิศ หอวัง นนทบุรี
95.โรงเรียนสตรีราชินูทิศ จ.อุดรธานี
96.โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี
97.โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาภาคใต้ จ.นครศรีธรรมราช
98.โรงเรียนสาธิต(พิบูลย์บำเพ็ญ) ม.บูรพา
99.โรงเรียนวิสุทธังษี จ.กาญจนบุรี
100.โรงเรียนนวมินทราชูทิศ เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า
ที่มา chillgang.com

อ่านหนังสือไม่เข้าหัวซักที ทำยังไงดีนะ


เวลาสอบก็ใกล้เข้ามาแล้ว แต่ยังมีหนังสืออีกเป็นตั้งใหญ่ๆที่ยังไม่ได้อ่าน วันนี้พี่เกตต์มีวิธีอ่านหนังสือในแบบฉบับของพี่เองมาแนะนำน้องๆที่ประสบปัญหานี้นะครับ

1. เขียนตารางการอ่านหนังสือ

ลองหยิบกระดาษ A4 มาสัก 1 แผ่น แล้ววางแผนว่า พรุ่งนี้จะอ่านหนังสืออะไรบ้าง กี่บท กี่เรื่อง ใช้เวลาประมาณกี่ชั่วโมง แล้วเขียนเป็นตารางอ่านหนังสือแบบคร่าวๆ นอกจากจะเป็นการฝึกการบริหารเวลาแล้ว ยังฝึกความมีวินัยในตัวเองอีกด้วย หมายความว่า ในช่วงเวลาที่เราวางแผนว่าจะอ่านหนังสือนั้น เราจะต้องห้ามตัวเองไม่ให้ทำอย่างอื่นให้ได้
2. ก่อนจะถึงเวลาอ่าน ให้ทำสิ่งที่อยากทำให้เสร็จ
สมมุติว่าเวลาเริ่มอ่านคือ 9 โมงเช้า ให้ทำทุกอย่างให้เสร็จสิ้นก่อนถึงเวลานั้นเช่น ซักผ้า อาบน้ำ เล่นเกม ซื้อหวย อัพสเตตัส ฟังเพลง ฯลฯ เพราะเมื่อถึงเวลาอ่านหนังสือแล้ว กิจกรรมเหล่านี้จะต้องงดไปโดยเด็ดขาด
3. หาอะไรใส่ท้องก่อนอ่านหนังสือ
มีคนเคยบอกว่า “กองทัพต้องเดินด้วยท้อง” สมองก็ต้องเดินด้วยของกินด้วยเช่นกัน ก่อนจะเริ่มอ่านหนังสือ ให้หาอะไรกินแบบพออิ่มสบายๆ แต่อย่าให้อิ่มจนเกินไป เพราะ “หนังท้องตึง หนังตาก็มักจะหย่อน” เดี๋ยวจะง่วงนอนเอาง่ายๆ ส่วนใครจะโด๊ปโอวัลติน กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่โฆษณาว่าบำรุงสมองก็จัดได้ตามสะดวกครับ แต่อย่าดื่มกาแฟเยอะเกินไป เดี๋ยวใจสั่นอ่านไม่รู้เรื่องนะครับ
4. หามุมเงียบๆ ที่นั่งได้นานๆ
เมื่อถึงเวลาอ่าน ให้หยิบหนังสือที่จะอ่านไปอ่านในที่ๆเงียบๆ สงบๆ ไม่มีคนเดินผ่านไปผ่านมา ไม่มีเสียงทีวี ไม่มีเสียงท่อมอเตอร์ไซด์ของเด็กแว๊น หรือเสียงรบกวนอื่นๆ หรือถ้าที่บ้านมีคนเยอะแยะมากมายก็ให้บอกกับสมาชิกในบ้านว่า “จะใช้สมาธิอ่านหนังสืออย่ารบกวน” และที่สำคัญอีกอย่างคือ อย่านอนอ่าน เพราะจะอ่านได้ไม่นาน (หลับ)
5. ปิดโทรศัพท์ เฟสบุค และแชททุกชนิดในช่วงอ่านหนังสือ
ข้อนี้สำคัญเลย ทุกอย่างที่ทำมาสามารถพังได้ถ้าละเลยข้อนี้ สมาธิในการอ่านหนังสือจะลดลงอย่างรวดเร็ว เมื่อถูกขัดด้วยเสียงโทรศัพท์ เสียงเฟสแชท เสียงไลน์ ถ้าไม่อยากปิดก็โพสสเตตัสบอกเพื่อนไปว่าจะอ่านหนังสือ ถ้าไม่มีอะไรสำคัญไม่ต้องทักแชทหรือโทรมา แต่เชื่อพี่เหอะ ปิดไปเลยชัวร์ที่สุด
6. หาปากกา ดินสอ ปากกาไฮไลท์ กระดาษเปล่าและโพสต์อิทไว้
ในการอ่านหนังสือ อาจจะต้องมีการจด โน๊ต ไฮไลท์ ขีดเส้นใต้ หรือคั่นหน้าที่สำคัญไว้ ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกขัดจังหวะจากการหาโน่นหานี่ ให้เตรียมๆเครื่องเขียนเหล้านี้ไว้ใกล้ๆมือ เพื่อให้การอ่าน ราบรื่นและเนียนนุ่มเหมือนก้นเด็ก… = =”
7. เตรียมน้ำเย็นๆไว้สักขวด ไว้กินตอนอ่านหนังสือ
การจิบน้ำระหว่างอ่านหนังสือเป็นวิธีที่ทำให้ร่างการรู้สึกสดชื่นอยู่เสมอ ถึงเราจะไม่ได้เสียน้ำก็เถอะ แต่เมื่อเราอ่านนานๆ จะทำให้สมองล้า แสบตา การกินน้ำก็จะช่วยทำให้ร่างกายสดชื่นและลดอาการเหล้านี้ได้ แต่อย่ากินเยอะเกินไป เพราะจะปวดฉี่บ่อย
8. เมื่ออ่านครบ 1 ชั่วโมง ควรจะพักสายตาสัก 5-10 นาที
พยายามหยุดพักการอ่านบ้างเป็นระยะๆ เพื่อให้มีเวลาพักผ่อนสมองกับสายตาบ้าง อาจจะฟังเพลงชิวๆสัก 2-3 เพลง ลุกเดินไปเดินมา แต่อย่าเพิ่งไปเปิดเฟส หรือแชทเด็ดขาด เพราะถ้าเล่นแล้ว เวลาพัก 10 นาทีอาจกลายเป็น 2 ชั่วโมงก็ได้
9. มีสมาธิในการอ่าน ไม่วอกแวก พยายามอย่าคิดเรื่องอื่นๆขณะอ่าน
ข้อนี้สำคัญ เพราะการอ่านรู้เรื่องหรืออ่านไม่รู้เรื่องขึ้นอยู่กับสมาธิในการอ่าน ให้จดจ่ออยู่กับสิ่งที่กำลังอ่าน คิดตาม จดตาม หรือขีดเส้นใต้ วงกลม ขีดโยงหัวข้อเข้าหากัน พยายามอย่าคิดเรื่องอื่นๆที่นอกเหนือจากเรื่องที่กำลังอ่าน
10. เมื่ออ่านเสร็จตามเป้าหมาย ลองให้รางวัลตัวเองดูบ้าง
เป็นเหมือนการให้รางวัลที่ตัวเราตั้งใจอ่านหนังสือจนสำเร็จตามแผน ตามเวลา หรือจบทุกเรื่องที่เราวางแผนไปแล้ว ก็ทำอะไรที่อยากทำเลยครับ จะฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกม แชทเฟสบุคให้สบายใจ
11. ถ้าเป็นไปได้ ให้อ่านซ้ำอีกหลายๆครั้ง
อันนี้แล้วแต่นะครับ บางคนอ่านครั้งเดียวเข้าใจ แต่สำหรับพี่และน่าจะอีกหลายๆคน การอ่านซ้ำจะทำให้การจดจำดีขึ้นและแม่นยำขึ้นอีกเยอะ
เป็นอย่างไรบ้างครับกับ 11 ข้อวิธีการอ่านหนังสือให้เข้าหัวของพี่ สามารถเอาไปลองทำกันได้นะครับ ถ้าทำได้ดีหรือมีคำแนะนำดีๆเพิ่มเติมมาแบ่งปันก็ยินดีมากเลยนะครับ
สู้ๆครับน้องๆ
พี่เกตต์
ที่มา chillgang.com

วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2554

สตีฟ จ็อบส์เสียชีวิตแล้ว


สตีฟ จ๊อบส์ ผู้ที่ถือว่าเป็นตำนานของโลก ในฐานะผู้สร้างนวัตกรรมที่เป็นที่นิยมมากที่สุดทั่วโลก อย่าง iPod, iPhone และ iPad ไม่รวมถึงอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อย่าง Mac แต่เนื่องจากโรคมะเร็งร้ายที่รุมเร้า สตีฟ ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ทำให้เค้าตัดสินใจลาออกจาก Apple เพื่อทำการรักษาอาการให้ดีขึ้น แต่ในที่สุดสตีฟ ก็ไม่สามารถที่จะต้านทานความร้ายกาจของเจ้าโรคมะเร็งร้ายได้
ทางเว็บไซต์ Apple.com ได้เปิดให้ทุกท่านสามารถร่วมไว้อาลัย และแชร์ความรู้สึกกับการจากไปของสตีฟ จ๊อบส์ ได้ที่อีเมล์  rememberingsteve@apple.com
สตีฟ จ๊อบส์ เคยกล่าวถึงโรคมะเร็งและความตายของเขาที่กำลังจะมาถึงใน ในงานจบการศึกษา ของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด 12 มิถุนายน 2005 ว่า
เมื่อตอนอายุ 17 ผมเคยอ่านข้อความประมาณว่า “ถ้าคุณสามารถใช้ชีวิตในแต่ละวัน เหมือนกับว่า มันเป็นวันสุดท้ายในชีวิต วันหนึ่ง คุณจะทำในสิ่งที่ถูกต้องดีงาม” และประทับใจมาก ตั้งแต่นั้น 33 ปีที่ผ่านมา ผมจะเฝ้ามองกระจกในทุกๆเช้า แล้วถามตัวเองว่า “หากวันนี้เป็นวันสุดท้ายในชีวิต เราจะทำในสิ่งที่เรากำลังจะทำหรือไม่?” หากคำตอบคือ “ไม่” หลายๆครั้งต่อๆกัน ผมรู้ได้เลยว่า ชีวิตผมต้องมีการเปลี่ยนแปลงบางสิ่งแล้ว

การตระหนักว่า เรากำลังจะตายนั้น เป็นความคิดอันสำคัญที่สุดช่วยให้ผมตัดสินใจในสิ่งที่ถูกต้อง เพราะว่าเกือบทุกสิ่ง – ความคาดหวังจากคนรอบข้าง, เกียรติยศศักดิ์ศรี, การกลัวความล้มเหลว – สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลยเมื่อต้องเผชิญกับความตาย เราจะคิดถึงก็แค่สิ่งที่จำเป็นอย่างแท้จริงเท่านั้น

การตระหนักว่า เรากำลังจะตายนั้น เป็นหนทางที่ดีที่สุดที่เราจะสามารถหลีกเลี่ยงมายาคติเกี่ยวกับการสูญเสีย เมื่อคุณเปลือยเปล่า คุณก็ไม่มีเหตุผล ที่คุณจะไม่ทำตามหัวใจ

ประมาณปีที่แล้ว ผมถูกตรวจพบว่า ผมเป็นมะเร็ง ผมเข้ารับการแสกนตั้งแต่เช้า 7.30 น. และพบเนื้องอกในตับอ่อนอย่างชัดเจน เวลานั้นผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตับอ่อนคืออะไร หมอบอกผมว่า ผมเป็นมะเร็ง และ ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ และผมควรรับรู้ด้วยว่า อาจมีชีวิตอยู่อีกเพียง 3 ถึง 6 เดือนเท่านั้น หมอแนะนำว่า ผมควรจะกลับบ้าน และ จัดการธุระทั้งหลายในชีวิต ซึ่งอีกนัยหนึ่งก็คือ ให้ผมเตรียมพร้อมสำหรับความตาย

มันหมายถึงการพยายามสอนลูกๆทั้งหลาย ในทุกๆสิ่ง ที่คุณเคยคิดว่าจะบอกเค้าในอีก 10 ปีถัดไป-ภายในเวลาไม่กี่เดือน มันหมายถึงการจัดการทุกสิ่งทุกอย่างให้เรียบร้อย เพื่อที่ครอบครัวของคุณจะได้ไม่ยุ่งยาก และมันหมายถึงการกล่าวคำอำลาทั้งปวง

ผมใช้ชีวิตอยู่กับคำวินิจฉัยนั้น จนกระทั่งเย็นวันหนึ่ง เมื่อเข้ารับการตรวจ หมอได้สอดอุปกรณ์แพทย์ผ่านลำคอของผม เข้าไปที่กระเพาะ และเลยไปถึงลำไส้ ตัดเนื้อเยื่อบางส่วนไปวิเคราะห์ ผมยังสะลึมสะลืออยู่ แต่ภรรยาที่อยู่ด้วยบอกว่า เมื่อหมอได้ตรวจเซลล์บางส่วนผ่านกล้องจุลทรรศน์แล้ว พวกเค้าก็ร้องไห้ออกมา เพราะพบว่ามะเร็งได้ลุกลามไปเพียงส่วนน้อย สามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัด

ผมเข้ารับการผ่าตัดหลังจากนั้น แล้วก็หายเป็นปกติดี

นั่นเป็นเหตุการณ์ที่เฉียดความตายที่สุด ซึ่งผมหวังว่า หลังจากนั้น ผมคงยังต้องมีชีวิตอยู่อีกต่อไปหลายปี ตอนนี้ผมสามารถพูดถึงความตายได้อย่างมั่นใจ กว่าตอนที่มันยังเป็นแค่คำคมและความคิด ซึ่งก็คือ

ไม่มีใครอยากตาย แม้แต่ผู้คนที่อยากจะไปสวรรค์ก็ยังไม่อยากตายเพื่อที่จะไป ความตาย เป็นปลายทางร่วมกันของพวกเราทุกคน ไม่มีใครสามารถหลีกหนีได้ และนั่นก็เป็นสิ่งที่ควรจะเป็น เพราะว่าความตายนั้นเป็นเหมือนสิ่งประดิษฐ์ชั้นเยี่ยมของชีวิต เป็นผู้เปลี่ยนแปลงยุคสมัย ความตายได้ชำระล้างสิ่งเก่า เพื่อตอบรับผู้มาใหม่

และตอนนี้ ผู้มาใหม่ก็คือพวกคุณ แต่วันหนึ่งในอีกไม่ช้า พวกคุณก็จะกลายเป็นสิ่งเก่า และถูกชำระล้างไปเช่นเดียวกัน ขออภัยที่น้ำเน่าไปหน่อย แต่มันก็เป็นเรื่องจริง

เวลาของพวกคุณมีจำกัด ดังนั้นจงอย่ามัวเสียเวลากับการใช้ชีวิตแทนผู้อื่น อย่ามัวตกอยู่ในกฏเกณฑ์ความเชื่อที่ผู้คนงมงาย อย่าให้เสียงของคนอื่นๆดังกลบเสียงที่อยู่ในภายในของคุณ และที่สำคัญที่สุด จงกล้าที่จะเดินตามหัวใจปรารถนา เพราะลึกๆในหัวใจคุณรู้อยู่แล้วว่า อะไรคือสิ่งที่คุณต้องการจะเป็น สิ่งอื่นๆนั้น ล้วนแต่เป็นเรื่องรอง


เมื่อผมยังเด็ก มีหนังสือเล่มหนึ่งที่วิเศษมากชื่อว่า The Whole Earth Catalog ซึ่งเป็นเสมือนไบเบิลเล่มหนึ่งของยุคสมัย ผู้เขียนคือ Stewart Brand ซึ่งอยู่ที่ Menlo Park ไม่ไกลจากที่นี่ เค้าสร้างมันขึ้นมาด้วยสัมผัสอันละเอียดอ่อน ในสมัยปลายยุค 60s ก่อนที่จะมีคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และระบบการจัดหน้าสิ่งพิมพ์ ดังนั้น หนังสือทั้งเล่มจึงสร้างขึ้นด้วยพิมพ์ดีด กรรไกร และกล้องโพลารอยด์ มันคล้ายกับการมี Google ในรูปแบบหนังสือ ซึ่งเกิดก่อน Google 35 ปี หนังสือเล่มนี้ถูกสร้างขึ้นอย่างปราณีตที่สุด เต็มไปด้วยเครื่องมือและโน้ตย่ออันละเอียดละออ

Steward และทีมงานสร้างหนังสือ The Whole Earth Catalog ออกมาหลายต่อหลายชุด และเมื่อถึงที่สุด เค้าก็ตัดสินใจทำเล่มสุดท้ายในประมาณกลางยุค 70s ซึ่งผมยังอายุพอๆกับพวกคุณ ในปกหลังของหนังสือเล่มสุดท้าย เป็นภาพถ่ายของยามเช้าบนถนนในชนบท ที่คุณอาจจะได้เคยเห็นเวลาเดินทาง โบกรถ – หากว่าคุณเป็นพวกชอบลุยน่ะนะ

ข้างใต้ภาพยามเช้านั้น มีข้อความเขียนว่า “Stay Hungry. Stay Foolish.” (จงกระหายอยู่เสมอ และจงเปิดใจอยู่เสมอ; คำว่า Fool นั้น แปลได้ทั้งความเขลา (จึงต้องเรียนรู้) และการเดินทางท่องไป – iMenn)

มันเป็นคำกล่าวอำลาครั้งสุดท้ายของคนทำหนังสือ, Stay Hungry. Stay Foolish. และผมก็ยังจดจำและเตือนตัวเองอยู่เสมอ

และในโอกาสที่พวกคุณได้จบการศึกษาในวันนี้ กำลังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ ผมจึงขออวยพรด้วยข้อความนี้เช่นเดียวกัน ถึงพวกคุณทุกคน

Stay Hungry. Stay Foolish.
ขอไว้อาลัยแก่ผู้ที่เป็นแรงบันดาลใจของคนอีกนับล้านบนโลกใบนี้ครับ

วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2554

อัลเบิร์ต เซนต์จอร์จี (Albert von Szent-Györgyi de Nagyrápolt)


อัลเบิร์ต เซนต์จอร์จี (Albert von Szent-Györgyi de Nagyrápolt) เกิดวันที่ 16 กันยายน 1893  เขาเป็นนักสรีรศาสตร์และนักวิทยาศาสตร์ชาวฮังกาเรียน เขาเป็นผู้ค้นพบวิตามิน C และได้รับรางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาหรือการแพทย์ในปี 1937 จากการที่เขาค้นพบของท่านในความเกี่ยวข้องระหว่างกระบวนการเผาผลาญทางชีวภาพกับวิตามินซีและการเพิ่มปฏิกิริยาเคมีของกรดฟูมาริก และเขายังอยู่ในหน่วยต่อต้านแห่งฮังการีในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองและได้ลงเล่นการเมืองในฮังการีหลังจากสงครามโลกอีกด้วย และวันนี้เป็นวันเกิดของเขาผู้นี้ Doodle ของ google จึงสดุดีวันเกิดปีที่ 118 ให้ Albert Szent-Gyorgyi ในวันนี้ครับ
ไวตามินซีเป็นสารประกอบอินทรีย์ ประกอบด้วย คาร์บอน ไฮโดรเจน และ ออกซิเจน ซึ่งค้นพบโดยAlbert Szent-Györgyi นั่นเอง เรื่องของเรื่องที่ทำให้เขากลายเป็นผู้คิดค้นวิตามิน C ได้มันสุดยอดมาก เขาชาวฮังกาเรียนที่มีชีวิตอยู่ในช่วงสงครามโลก และช่วงที่เขาเรียนอยู่ เป็นช่วงที่สงครามโลกครั้งที่หนึ่งเริ่มขึ้นพอดี ด้วยความที่เขาไม่อยากไปรบ เขาบอกว่า
“overcome with such a mad desire to return to science that one day I grabbed my revolver and in my despair put a shot through my upper arm.” 
ด้วยความที่อยากกลับมาเป็นนักวิทยาศาสตร์ (แทนที่จะไปแบกปืนสู้รบ) เขาก็ปืนยิงแขนตัวเอง O.o  หลังจากนั้น Albert Szent-Györgyi ได้เรียนจบจากหลายๆ มหาวิทยลัยในยุโรป จนในที่สุดได้รับปริญญาแพทย์มา จากนั้นเขาก็ได้ทำการศึกษาค้นคว้าโดยเน้นไปทางเคมี สารอาหารต่างๆ ต่อมาในปี 1930 Eureka moment ในปี 1930 หลังจากเขาได้ค้นพบ hexuronic acid เขาได้กลับไปฮังการีเพื่อไปเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เขาได้ทำการทดลองสารตัวนี้อยู่พักนึง และหลังจากค้นพบอะไรบางอย่าง ก็ได้ตั้งชื่อสารชนิดนี้ใหม่ว่า Ascorbic Acid ซึ่งก็หมายความว่าเป็นสารที่มีหน้าที่ต้อต้านโรค scurvy (โรคลักปิดลักเปิด) 
เนื่องจากอาหารที่มี Ascorbic Acid มีน้ำตาลอยู่ในปริมาณสูง จึงทำให้ยากต่อการแยก Ascorbic Acid ออกมา ในปี 1933 หลายๆ คนคงรู้จักประเทศฮังการี่ดี ว่า ประเทศนี้กับพริกหยวกป่น (paprika) เป็นของคู่กัน วันนึงภรรยาเขาก็ทำอาหารเย็นให้กิน แต่เขาเกิดอาการไม่อยากกิน แล้วเขาก็นึกถึงยาที่เขาคิดค้นได้แต่รสชาติไม่น่ากินเหมือนกันอาหาร เขาก็ตรงไปที่ Lab อีกสามอาทิตย์ถัดมา Ascorbic Acid บริสุทธิ์ก็คลอดออกมา และในปีเดียวกับ Hoffmann-La Roche (Switzerland) ก็เป็นบริษัทยาแห่งแรกของโลกที่ผลิตไวตามินซีสังเคราะห์ขึ้นมา โดยใช้ชื่อทางการค้าว่า Redoxon ช่วงนี้ก็เลยมีการสังเคราะห์ไวตามินซีออกมากันมามากมาย และอีกสี่ปีถัดมา Albert Szent-Györgyi ได้รับ Nobel Prize in Medicine หรือ รางวัลโนเบลทางด้านการแพทย์ จากการค้นพบไวตามินซีนี่เอง
บทความโดย indythai.com
ขอบคุณข้อมูลจาก wikipedia และ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=phoebe&month=10-01-2010&group=1&gblog=72 

ผู้ทดสอบ DotA2 กลุ่มแรกได้ลองเล่นแล้ว


ขณะนี้มีกลุ่มผู้ทดสอบกลุ่มแรกได้เริ่มทดสอบ DotA2 อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับ invite ให้ทดสอบเกม DotA2 และได้เปิดโอกาสให้คนทั่วไปที่อยากรู้ถามอะไรก็ได้ที่อยากถามเกี่ยวกับเกม “AMA” (ask me anything)  บน reddit แล้วสิ่งที่เขาตอบก็ได้รวบรวมเป็นคำถามคำตอบออกมาได้ดังนี้ครับ:
มีภาพสกรีนช็อตจริงๆของเกมไหม เอาเป็นภาพ Tiny ตอนซื้อของที่ร้านขายของลับ (ในป่า) ? 
ระบบจัดแมทช์มีแล้วรึยัง แล้วมันเป็นยังไงมีแน่นอน แต่การจัด Level ใน Profile ยังไม่เสร็จ แต่เดี๋ยวมันก็จะเสร็จในไม่ช้านี้แหละ
การจัด Level คืออะไร ถ้าคุณแพ้บ่อยๆ เลเวลคุณจะลดด้วยรึเปล่า?
มันใช้จัดผู้เล่นที่มีระดับของผู้เล่น แต่มันยังทำไม่เสร็จ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
มีกี่คนที่ได้ทดสอบ DotA2 beta ในรอบแรกนี้?
น้อยมาก และเป็นคนที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี ผมว่าซักประมาณ 100-150 คน
คุณช่วยโชว์ screenshot ของ Dragon Knight ในเกมจริงๆหน่อยได้มั้ย?
ตอนนี้ มันยังไม่มีในเกมครับ
ตัว Hero จะหลุดจากการควบคุมเวลากดคลิกซ้ายไปที่อะไรซักอย่างหรือตัวอื่นๆในเกม เช่นครีพ หรือโรฮานรึป่าว?ทั้งใช่และไม่ การคลิกที่ตัวอื่นทำให้คุณสามารถเห็นค่าต่างๆและสกิลของตัวนั้นๆได้ แต่ถ้าคุณกดคลิกขวาอีกครั้งนึง คุณก็กลับมาควบคุมฮีโร่ของคุณได้อีกครั้ง แต่จะใช้ไม่ได้กับตัวส่งของ หรือฮีโร่ที่ไม่สามารถติดต่อได้
ร้านขายไอเท็มเป็นไงบ้าง คุณชอบมันมั้ย แล้วเหมือนกันกับที่เคยเห็นใน HoN or LoL หรือเปล่า และมันผมจุดผิดพลาดมั้ย?
มันไม่มี hotkeys ของร้านขายไอเท็ม มันน่ารำคญนิดหน่อย แต่ผมว่ามันต้องมีแน่ๆ เดี๋ยวมันก็ต้องมา
มี screenshots ของ shop (ร้านไอเท็ม) มาโชว์บ้างมั้ยครับ ?

ผมเดาว่าเขายังไม่ได้แก้กดคลิกขวาซื้อของด้วยใช่มั้ย?

เขาแก้แล้วล่ะ
แล้ว.. มันเกิดอะไรขึ้นเวลาคลิกซ้ายที่ไอเท็ม มันจะโชว์รายละเอียดเหมือน HoN รึเปล่า?
มันเป็นแบบนั้นครับ
UI มันสามารถปรับแต่งหน้าตาได้หมดรึเปล่า ถ้าได้เราจะปรับแต่งมันได้ยังไง?
ในเกมเราแก้ไม่ได้ แต่มันจะเหมือนกับระบอื่นๆหรือเกมอื่นๆของ Valve เราต้องไปแก้ในไฟล์ .res 
อะไรคือ “Prestige (ยศ)?”
Prestige ดูเหมือนว่ายังไม่ได้สร้างน่ะ ตอนนี้มันมีแค่ชนะเท่าไหร่ และแพ้เท่าไหร่
ตัวส่งของทำงานยังไง มันส่งของมาให้แล้วกลับได้ในการกดแค่ครั้งเดียวรึเปล่า?
ใช่เลย กดแค่ครั้งเดียวมันก็จะมาส่งของให้ถึงที่ แล้วจากนั้นมันก็จะกลับไป
คุณช่วยไปที่ DotA2 community แล้วคุณเห็นฮีโร่ตัวที่ยังไม่มีรึเปล่า
ไม่มีครับ
VALVe มีตัวอัพเดตออกมาในวันสองวันนี้หรือเปล่า?
จะออกมาวันพฤหัสนี้
คุณสามารถเล่นในกลุ่ม 2-4 คนด้วยกันได้ไหม?
ได้ครับ มันอยู๋ในโหมด party
ตัว Host อยู่ที่ไหน แล้วเป็นยังไง?
ตอนนี้ Valve เป็น Host โดยใช้ dedicated servers ผู้เล่นทั่วไปยังเป็น Host เองไม่ได้ แต่ผมว่ามันเป็นอย่างนี้เฉพาะรุ่น beta เดี๋ยวมันก็ต้องแก้ไขอยู่ อย่าห่วงเลย
คุณสามารถเข้าชมเกมที่กำลังเล่นได้รึเปล่า แล้วสามารถมีคนเข้าดูสูงสุดได้กี่คนต่อเกม
เข้าดูได้ครับ ผมไม่รู้จำนวนที่แน่นอน แต่ผมว่าเกิน 15 คน
เขากำลังทำ AI หรือมีแผนทำ AI (Bot) ของเกมนี้อยู่ด้วยหรือเปล่า
ตอนนี้ยังไม่มี แล้วผมก็ไม่รู้ว่าเขามีแผนที่จะทำด้วยหรือเปล่า
ตอนนี้ DotA2 ใช้พื้นที่ลงในคอมกี่ GB แล้วครับ
2.53 GB (ในตอนนี้นะ แล้วยังไม่รวมถึงฮีโร่ที่กำลังจะมีเพิ่มขึ้นมาอีก)
มีคีย์ลัด Q.W.E.R หรือเปล่า หรือมันคล้ายกับของ DotA หรือเปล่า
QWER มี แต่ทุกปุ่มมันแยกกัน กดเป็นชุดไม่ได้ ดังนั้นมันไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ
ระบบดู Replay มีหรือเปล่า
มันยังไม่มี แต่ในไฟล์บอกได้ว่ามันมีแน่ๆ
ผมเห็นรูปร้านขายของ มันมีไอเท็มเริ่มต้น แนะนำไอเท็มที่ต้องเปลี่ยนไหม
ใช่ มีไฟล์ที่บอกให้เปลี่ยนของให้เหมาะกับแต่ละตัวอยู่ครับ
ระบบตั้งชื่อของเกมเป็นยังไง?คุณสามารถตั้งชื่อคุณเองได้ในแต่ละเกมมั้ย หรือคุณสามารถเปลี่ยนชื่อจาก Steam Account ไปเป็นชื่อที่ตั้งเองได้ไหม
ตอนนี้ผมใช้ Steam account ครับ
แปลและเรียบเรียงโดย indythai.com

วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ศัพท์ของชาว DotA รู้กันและควรทราบ(ตอนที่ 1)


หลายคนเล่น DotA ใหม่ๆ ไปเจอศัพท์แปลกๆที่คนอื่นเขาพิมพ์มา พูดมาอาจจะไม่เข้าใจนัก เนื่องจากระบบแชทในตัวเกมเป็นแบบภาษาอังกฤษเท่านั้น เกมเมอร์ชาวไทยจิงพิมพ์คำพูดหลายๆคำเป็นภาษาเฉพาะ หรือถาษาคาราโอเกะเพื่อให้เข้าใจง่าย ไปดูกันครับ ว่ามีคำอะไรบ้างที่ควรรู้จักครับ
ครีพ (Creep)
สิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆทั้งของฝ่ายSentinel และ Scourge ถูกสร้างขึ้นมาเรื่อยๆเพื่อส่งออกไปสู้รบตามกำหนดเวลาเป็นระยะๆ เมื่อเรา หรือ Creep ฝ่ายเราฆ่า Creep ฝ่ายตรงข้ามได้และเราอยู่ในบริเวณนั้น (1000 AoE) เราจะได้รับค่าประสบการณ์ จะทำให้hero ของเราเก่งขึ้นได้ และถ้าเราเป็นคนฆ่า Creep ฝ่ายตรงข้ามได้เราจะได้ตังค์ด้วย ดังนั้นจึงมีวิธีที่ไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามได้ตังค์จากการฆ่า Creep เรา คือเราฆ่า creep ของเราที่ใกล้ตายซะเอง เรียกการกระทำนี้ว่า ดีไนด์ครีพ (creep denied) ส่วนเราเองก็ต้องพยายามไปฆ่า Creep ฝ่ายตรงข้ามให้ได้ซึ่งมีเทคนิคคือ ไปตี Creep ตัวที่เลือดน้อยใกล้ตาย เราเรียกเทคนิคนี้ว่าลาส ช็อต (Last shot) (คำว่าลาส ช็อตนั้น อาจหมายถึงการตีป้อม หรือฮีโร่ในการตีครั้งสุดท้ายก่อนที่ป้อมจะถูกทำลายหรือฮีโร่นั้นจะตายก็ได้)
ฮีโร่ (HERO) 
ตัวละครที่ผู้เล่นเลือกขึ้นมาแทนตัวเองเพื่อใช้ในการต่อสู้ซึ่งเมื่อทำการเริ่มเกมส์แล้ว ผู้เล่นแต่ละคนจะสามารถเลือก Hero คนละ 1 ตัวเพื่อนำมาต่อสู้ในสมรภูมิครับผม และการเลือก Hero นั้น ไม่สามารถเลือกซ้ำกันได้ยกเว้นในกรณีโหมด -mm หรือเหตุสุดวิสัยเช่น มีผู้เล่นคนนึง -random แล้วผู้เล่นอนีกคนเลือกตัว hero นั้นพร้อมกันพอดี ฮีโร่แต่ละตัวก็จะมีลักษณะเฉพาะแตกต่างกันออกไป และมีค่าสองค่าคือเลือด กับ มาน่า เลือดของฮีโร่แต่ละตัวจะมีปริมาณไม่เท่ากัน เมื่อฮีโร่ถูกโจมตีเลือดจะลดลงเรื่อยๆ และฮีโร่จะตายเมื่อเลือดเป็น 0 ซึ่งฮีโร่ที่ตายจะไปเกิดใหม่ในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่บ้านของฝั่งตนเอง (ศัทพ์เทคนิค : เกิดบ่อ) ส่วนมาน่า หรือมานา ใช้เมื่อฮีโร่ต้องการใช้สกิลหรือความสามารถพิเศษ ซึ่งหากมานาไม่เพียงพอก็ไม่สามารถใช้ความสามารถนั้นได้
ไอเท็ม (Item) 
สิ่งของ / อาวุธเสริม ที่ hero เราถืออยู่ ซึงจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งและความสามารถพิเศษให้ Hero ของท่านได้
เอาท์ (Out) 
เมื่อใครก็ตาม ออกจาก DotA ไปโดยบอกสาเหตุไว้ หรือไม่เสียเปรียบ อยู่ในขณะนั้น หรือออกในขณะที่ทุกๆคนเข้าใจว่าคนที่ออกนั้น ไม่ได้ออกด้วยความจงใจ เช่น ไฟดับ หรือ internet หลุด แต่บางคนใช้คำว่าNoob out แทนคนที่เจตนาออกจากเกมเมื่อฝ่ายตัวเองเสียเปรียบหรือกำลังจะแพ้
ลีฟเวอร์(Leaver)
มีความหมายเดียวกับ Noob out คือเมื่อผู้เล่นใดๆ จงใจออกจากเกมส์โดยขณะที่กำลังเสียเปรียบ / ถูกฆ่า / บั่นทอนกำลังใจ ฯลฯ ทำให้ฝ่ายที่มี leaver เสียเปรียบทันที ซึ่งบางทีก็ออกยกทีมเลยก็มี เจอบ่อยๆครับ
นูป(Noob)
เพียนมาจากคำว่า newbie แปลว่ามือใหม่ คือคนที่ยังอ่อนทักษะในด้าน DoTA และยังไม่มีประสบการณ์ในการเล่นมากนักซึ่งมีความหมายไม่เลยร้ายเท่าคำว่า kak
กาก(Kak)หมายถึงคนที่ยิ่งกว่านูป คือมือใหม่ เล่นหวย และไม่พยายามเล่นให้ดีขึ้นจนเป็นต้นเหค(หลายๆครั้ง)ให้ทีมพ่ายแพ้ 
เกรียน(Grien)
คือคนที่นิสัยเด็กๆ ไม่ฟัง ไม่ยอม ไม่มีเหตุผล ฯลฯ
(จีจี)GG
ย่อมาจาก Good Game ครับ แปลว่าเป็นเกมส์ที่ดี เล่นสนุก สูสี หรือแฟร์ (บางคนไปแปลเป็นคำว่า กาก เกรียน ซึ่งไม่ค่อยจะถูกหลักสักเท่าไหร่)
ATMหมายถึงนูปที่วิ่งไปให้ฝ่ายตรงข้ามฆ่าตาย ทำให้ฝั่งตรงข้ามได้เงินมาซื้อไอเท็มมากมาย บางครั้งก็เรียกว่าตัวแจกเงินน่ะ
All cen หรือ All C
หมายถึงรวมฮีโร่ทุกตัวในทีมเพื่อดันไปยังทางเส้นตรงกลาง
Q Q Q ย้ำๆ
มาจากคำว่า Kill หมายถึง ฆ่า
ฟาร์ม(Farm)
การที่ตัวฮีโร่เข้าป่า ไปฆ่าสัตว์ประหลาดที่อยู่ในป่าเพื่อเก็บเลเวลและเงิน หลายคนใช้วิธีนี้เมื่อเลเวลของฮีโร่สู้ฮีโร่ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้
(ตุ๋ย)Tui
มีด้วยกัน 2 อย่างคือตุ๋ยฮีโร่ หมายถึงอ้อมไปดักฆ่า รุมฆ่า หรือฆ่าฮีโร่ฝ่ายตรงข้ามตอนทีเผลอ และอีกอันคือ ตุ๋ยป้อม หมายถึงเอาฮีโร่เข้าไปทำรายป้อม หรือบาแร็คฝ่ายตรงข้ามโดยไม่สนใจฮีโร่ฝั่งตรงข้ามหรือไม่สนใจครีพฝั่งเราว่าอยู่ตรงไหน
B B B B ย้ำๆ
มาจากคำว่า Back หมายถึงถอย ถอยอย่างไว เพราะมีแนวโน้มว่าอาจโดนดักตุ๋ย หรือรีบกลับไปเพื่อป้องกันบ้าน
(อันติ)unti
หมายถึง ท่าไม้ตายของแต่ละฮีโร่
All Skill
หมายถึงรุมเอาสกิลของฮีโร่ฝั่งเดียวไปโจมตีฝั่งตรงข้ามอ่างหนักหน่วง 
(ตั๊นท์ ,สตันท์) Stuntหมายถึงการใช้สกิลที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามหยุดนิ่งหรือมึนงงชั่วขณะ
First Bloodหมายถึงมีฮีโร่โดนฆ่าตายตัวแรกของเกม จะทำให้ผู้ฆ่าได้รับเงินและโบนัสมากมาย และทำให้ผู้ที่โดน First blood เสื่อมเสียชื่อเสียงในทันที
ยังมีอีกหลายคำครับเช่น วินวอร์ค ใบว๊าบ โรฮาน(โรซาน) เก็บรูน ปักหวาด ครี ดับเบิ้ลคริว ทริปเปิ้ลคริว อันสต๊อปเปอร์ โฮลี่ชิท ก๊อดไลค์ end(เอ็นด์) ตีติดคริ เป็นต้น มาต่อให้ตอนหน้านะครับ
บทความโดย บรรณาธิการเกม indythai.com